เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 7.มหาวรรค 6.สักกัจจสูตร
6. เป็นไปไม่ได้เลยที่ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา มีความเคารพ
ในพระธรรม มีความเคารพในพระสงฆ์ มีความเคารพในสิกขา
มีความเคารพในสมาธิ จักไม่มีความเคารพในความไม่ประมาท
ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา มีความเคารพในพระธรรม
มีความเคารพในพระสงฆ์ มีความเคารพในสิกขา มีความเคารพใน
สมาธิ ก็ชื่อว่ามีความเคารพในความไม่ประมาทด้วย พระพุทธเจ้าข้า
7. เป็นไปไม่ได้เลยที่ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา มีความเคารพ
ในพระธรรม มีความเคารพในพระสงฆ์ มีความเคารพในสิกขา
มีความเคารพในสมาธิ มีความเคารพในความไม่ประมาท จักไม่มี
ความเคารพในปฏิสันถาร ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา
มีความเคารพในพระธรรม มีความเคารพในพระสงฆ์ มีความ
เคารพในสิกขา มีความเคารพในสมาธิ มีความเคารพในความไม่
ประมาท ก็ชื่อว่ามีความเคารพในปฏิสันถารด้วย พระพุทธเจ้าข้า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
1-6. เป็นไปได้ที่ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา จักมีความเคารพใน
พระธรรมด้วย ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา ก็ชื่อว่ามีความ
เคารพในพระธรรมด้วย พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ
7. เป็นไปได้ที่ภิกษุผู้มีความเคารพในพระศาสดา ฯลฯ มีความเคารพ
ในความไม่ประมาท จักมีความเคารพในปฏิสันถารด้วย ภิกษุผู้มี
ความเคารพในพระศาสดา มีความเคารพในพระธรรม มีความ
เคารพในพระสงฆ์ มีความเคารพในสิกขา มีความเคารพในสมาธิ
มีความเคารพในความไม่ประมาท ก็ชื่อว่ามีความเคารพในปฏิสันถารด้วย
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ย่อมรู้ชัดเนื้อความแห่งพระภาษิตที่พระผู้มี
พระภาคตรัสไว้โดยย่อนี้ได้โดยพิสดารอย่างนี้”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร ดีจริง สารีบุตร เธอรู้ชัดเนื้อความ
แห่งภาษิตที่เรากล่าวไว้โดยย่อนี้ได้โดยพิสดารอย่างนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :154 }